ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear, ThinPrep): เจอไว รักษาทัน

คลิทอเรีย คลินิกสุขภาพเพศ ตรวจภายใน เพชรเกษม 81 กรุงเทพ

คุณหมอใจดี บรรยากาศส่วนตัวเหมือนอยู่บ้าน เปิดกว้างเรื่องเพศ รับฟังทุกปัญหา ไม่ตีตราเรื่องอ่อนไหว

บทความโดย แพทย์หญิงฐิติพร ตั้งวิวัฒนาพานิช : แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป, นักเพศวิทยา, ผู้ก่อตั้งคลิทอเรียคลินิก

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง

ในการค้นหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

เพื่อป้องกันการพัฒนาไปสู่มะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย

งานวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) และ American Cancer Society

ยืนยันว่า การตรวจ Pap smear หรือ ThinPrep อย่างสม่ำเสมอ

สามารถตรวจเจอ และรักษาหายได้ทัน ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตรวจคัดกรองมะเร็ง ด้วย Pap Smear และ Thin Prep

การตรวจ Pap smear และ ThinPrep

คือการเก็บเซลล์จากปากมดลูกมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์

เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์หรือไม่

ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus)

ThinPrep เป็นเทคนิคใหม่ ที่เก็บและเตรียมตัวอย่างในของเหลว

ทำให้ภาพเซลล์ชัดขึ้นและลดโอกาสพลาดการตรวจพบเซลล์ผิดปกติ

ความแตกต่างของ Pap Smear และ Thin Prep

การตรวจเซลล์ปากมดลูกมี 2 วิธีหลัก คือ

• Pap Smear
  • เก็บเซลล์จากปากมดลูกแล้วป้ายลงบนสไลด์ จากนั้นนำไปย้อมสีและส่องกล้องจุลทรรศน์
  • วิธีนี้ใช้กันมานานแต่มีโอกาสที่เซลล์จะซ้อนทับกัน หรือปนเปื้อนเมือกและเลือด
  • ทำให้การอ่านผลอาจไม่ชัดเจน
• Thin Prep
  • เก็บเซลล์จากปากมดลูกแล้วใส่ลงในน้ำยาสารกันเสีย
  • นำไปแยกสิ่งปนเปื้อนออก ทำให้เหลือเฉพาะเซลล์ที่ต้องการตรวจ วิ
  • ธีนี้ช่วยให้การอ่านผลแม่นยำขึ้น 
  • สามารถใช้ตัวอย่างเดียวกันเพื่อตรวจหาเชื้อ HPV ได้ด้วย

ควรตรวจบ่อยแค่ไหน?

• ถ้าใช้ Pap Smear ควรตรวจทุก 1 ปี
• ถ้าใช้ Thin Prep หรือมีการตรวจ HPV ร่วม สามารถตรวจห่างได้เป็นทุก 2-3 ปี หากผลปกติ

ใครบ้างที่ควรตรวจ?

• ผู้หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป แม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
• ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วทุกคน
• ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือคู่นอนมีความเสี่ยงทางเพศสูง
• ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อ HPV หรือเคยมีผลตรวจผิดปกติ
• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV

สาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติของปากมดลูก

• การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 สัมพันธ์กับมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด
• การสูบบุหรี่ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ของเซลล์
• ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV
• มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน เพิ่มโอกาสรับเชื้อ HPV
• ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก

อาการที่ควรระวัง

ในระยะแรก มะเร็งปากมดลูกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม อาจพบอาการดังนี้:

• ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือตกขาวปนเลือด
• เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกนอกรอบเดือน
• ปวดอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง น้ำหนักลดไม่มีสาเหตุ

การวินิจฉัย

แพทย์จะใช้ไม้พายหรือแปรงเก็บเซลล์จากปากมดลูก ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

หากผลตรวจพบความผิดปกติ อาจมีการตรวจเพิ่มเติม

เช่น การส่องกล้องปากมดลูก (Colposcopy)

และการตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันการวินิจฉัย

การรักษามะเร็งปากมดลูก

• หากพบเพียงการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (CIN13) อาจรักษาด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy) หรือการตัดด้วยห่วงไฟฟ้า (LEEP)
• หากพบเป็นมะเร็ง อาจใช้การผ่าตัด เคมีบำบัด หรือรังสีรักษา ขึ้นกับระยะโรค

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก

• ตรวจ Pap smear หรือ ThinPrep เป็นประจำทุก 3 ปี (อายุ 2165 ปี)
• ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV
• ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
• งดสูบบุหรี่

การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง

เพิ่มโอกาสการรักษาหายเกือบ 100%

อย่ารอให้มีอาการแล้วค่อยมาตรวจ

• ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Thin Prep ราคา 1490 บาท
• ตรวจหาเชื้อ HPV 14 สายพันธุ์เสี่ยงมะเร็ง 1290 บาท
• ตรวจหาเชื้อ HPV 29 สายพันธุ์ 2590 บาท

       (รายการด้านบน ยังไม่รวมค่าแพทย์)

• ตรวจ Thin Prep + HPV 14 สายพันธุ์ + แพทย์ตรวจภายใน ราคา 2590 บาท

ปรึกษาทีมแพทย์ คลิทอเรียคลินิก เพชรเกษม 81

โทร: 081-116-3788 | Line OA: @dr.clitoria

Meta Description: Pap smear และ ThinPrep ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ป้องกันโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดความเสี่ยง เสริมความปลอดภัยให้สุขภาพผู้หญิง

Keywords: Pap smear, ThinPrep, มะเร็งปากมดลูก, ตรวจภายใน, HPV, การป้องกันมะเร็ง