สายพันธุ์ HPV ที่ป้องกันได้

HPV 4 สายพันธุ์ ครอบคลุม:

ชนิด 16, 18 = เสี่ยงมะเร็งสูง

ชนิด 6, 11 = เกี่ยวข้องกับหูดหงอนไก่

HPV 9 สายพันธุ์ ครอบคลุม:

เพิ่มชนิด 31, 33, 45, 52, 58 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมะเร็งสูง ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้มากขึ้น

4-valent vs 9-valent

ใครที่ควรฉีดวัคซีน HPV

• วัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ยังไม่ครบโดส หรือยังไม่เคยรับวัคซีน HPV
• ผู้ที่มีคู่นอนใหม่/หลายคน หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV
• ผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ในอนาคต (ควรฉีดให้ครบก่อนตั้งครรภ์)
• บุคคลทุกเพศที่ต้องการลดความเสี่ยงหูดหงอนไก่และมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ HPV

ผลข้างเคียงหลังฉีด

• ปวด/บวม/แดงบริเวณที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ไข้ต่ำ ๆ มักหายเองใน 13 วัน
• อาจหน้ามืด/เป็นลมในวัยรุ่น แนะนำสังเกตอาการอย่างน้อย 15 นาทีหลังฉีด
• หากมีผื่นลมพิษ หายใจลำบาก หรืออาการรุนแรง ให้มาพบแพทย์ทันที
• ไม่แนะนำฉีดระหว่างตั้งครรภ์ หากเริ่มฉีดแล้วตั้งครรภ์ ให้เลื่อนโดสที่เหลือหลังคลอด

การเตรียมตัวก่อนมาตรวจ/รับบริการ

• นัดคิวล่วงหน้าที่ LINE OA: @dr.clitoria
• แจ้งประวัติการแพ้วัคซีน/ยา หรืออาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน
• นำสมุด/ประวัติการฉีดวัคซีนเดิม (ถ้ามี)
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนให้พอ งดออกกำลังกายหนักในวันฉีด

ขั้นตอนการฉีด

1. ซักประวัติสั้น ๆ
2. ฉีดวัคซีนเข้ากล้าม ต้นแขนด้านที่ไม่ถนัด อาจเจ็บจี๊ดขณะฉีด
3. สังเกตอาการ 1530 นาที
4. นัดเข็มถัดไป ตามช่วงอายุ ไม่ควรมาช้าเกินนัด 3 วัน มาก่อนได้ไม่เกิน 7 วัน

การดูแลตัวเองหลังฉีด

• ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด
• ลดปวดได้ด้วยพาราเซตามอล
• หลีกเลี่ยงการนวด/เกาแรง ๆ ที่ตำแหน่งฉีด 24 ชม.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ฉีดวัคซีน HPV แล้วต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอีกไหม?

ยังต้องตรวจอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัคซีนไม่ครอบคลุมทุกสายพันธุ์

และการติดเชื้อ HPV ไม่ได้ก่อมะเร็งทุกราย

อายุเกิน 26 ปี หรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ฉีดได้ไหม?

ทำได้ตามดุลยพินิจแพทย์และปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล